มาทำความรู้จักกับจุดเริ่มต้นของ “โอลิมปิก” การแข่งขันกีฬาครั้งยิ่งใหญ่ระดับโลก
หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า “โอลิมปิก” มายาวนาน ซึ่งส่วนใหญ่มักทราบกันดีอยู่แล้วว่าโอลิมปิกนั้นเป็นการแข่งขันกีฬาระหว่างประเทศของคนทั้งโลก แต่คงมีเพียงไม่กี่คนที่ทราบรายละเอียดลึก ๆ ของการแข่งขันกีฬาชนิดนี้ ทั้งนี้หากเราได้ทราบที่มาและความสำคัญของโอลิมปิกอย่างแท้จริงว่าเป็นมาอย่างไร ก็จะทำให้การติดตามโอลิมปิกในปี 2563 นี้มีความเข้มข้นและสนุกมากกว่าที่เคย
ตำนานและที่มาของกีฬาโอลิมปิกโบราณ
กีฬาโอลิมปิกที่เรารู้จักกันนั้นคือกีฬาโอลิมปิกสมัยใหม่ที่มีจุดเริ่มต้นมาจากกีฬาโอลิมปิกโบราณของชาวกรีก ซึ่งจุดเริ่มต้นของกีฬาโอลิมปิกโบราณนั้นไม่มีใครทราบอย่างแน่ชัดว่าใครเป็นผู้ก่อตั้งเพราะไม่มีการบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร มีเพียงการสันนิษฐานตามตำนานความเชื่อ ว่าเฮราคลีสคือคนแรกที่ริเริ่มใช้คำว่าโอลิมปิก โดยโอลิมปิกในสมัยนั้นเป็นกีฬาที่มีความสำคัญต่อศาสนามาก เพราะเป็นการจัดร่วมกับพิธีบูชายัญแด่เทพตามตำนานของโอลิมเปีย โดยจัดทุก ๆ 4 ปีเรียกว่า โอลิมเปียดซึ่งเป็นหน่วยวัดเวลาของชาวกรีกสมัยก่อน กีฬาที่จัดในสมัยนั้นเน้นกรีฑาเป็นหลักทั้งนี้คอโรเอบัสคือชายคนแรกที่ชนะโอลิมปิก กีฬาโอลิมปิกโบราณรุ่งเรืองเรื่อยมาจนสูญหายไปพร้อมกับการถูกทำลายของเทวสถานกรีกทั้งหมดในสมัยของจักรพรรดิธีโอโดเซียสที่ 2 ราวปี พ.ศ. 936
จุดเริ่มต้นของกีฬาโอลิมปิกสมัยใหม่
ผ่านไปประมาณ 15 ศตวรรษจากการสิ้นสลายของกีฬาโอลิมปิกโบราณ ปีแยร์ เดอ กูแบร์แต็ง นักกีฬาที่มีความสนใจในเรื่องของประวัติศาสตร์ สังคมและการเมือง ชาวฝรั่งเศส ได้มีความคิดอยากรื้นฟื้นการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกให้กลับมาอีกครั้ง จึงได้ปรึกษาหารือกับตัวแทนของประเทศต่าง ๆ จำนวน 15 ประเทศ และก่อตั้งคณะกรรมการโอลิมปิกสากลหรือไอโอซีขึ้น ณ ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2435 โดยให้เริ่มมีการแข่งขันโอลิมปิกครั้งแรก ณ กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ ในปี พ.ศ. 2439 เพื่อเป็นการระลึกถึงกีฬาโอลิมปิกโบราณที่มีต้นกำเนิดที่ประเทศกรีซ และกำหนดให้มีการจัดการแข่งขันเรื่อยมาทุก ๆ 4 ปี เช่นเดียวกับกีฬาโอลิมปิกโบราณ
รางวัลและคบเพลิงโอลิมปิก
ในอดีตรางวัลของผู้ชนะโอลิมปิกคือกิ่งไม้มะกอกที่มาจากยอดเขาโอลิมปัส ในขณะที่ปัจจุบันเป็นเหรียญรางวัลต่าง ๆ เช่น เหรียญเงิน เหรียญทอง เหรียญทองแดง และประกาศนียบัตร ส่วนคบเพลิงในอดีตคือการจุดกองไฟขนาดใหญ่บนยอดเขาโอลิมปัสและใช้ตะเกียงต่อไฟ จากนั้นนักวิ่งจะเป็นผู้ถือตะเกียงวิ่งส่งตะเกียงต่อกันเป็นทอด ๆ จนทั่วเมือง ทั้งนี้ในปัจจุบันก็ยังมีการจุดไฟที่เขาโอลิมปัสเหมือนเดิมแต่ได้มีการใช้คบเพลิงแทนตะเกียงในการต่อไฟ และวิ่งส่งต่อคบเพลิงไปประเทศสมาชิกทั่วโลก จนไปถึงประเทศเจ้าภาพโดยมีความเชื่อว่าคบเพลิงจะต้องไม่ดับตั้งแต่วันแรกที่จุดจนกระทั่งวันสุดท้ายของการแข่งขัน
กีฬาโอลิมปิกในปัจจุบัน
ในปัจจุบันมีทั้งหมด 197 ประเทศที่เป็นสมาชิกโอลิมปิก โดยมีนิยามของการแข่งขันกีฬาชนิดนี้ว่า นักกีฬาที่เป็นตัวแทนของแต่ละประเทศนั้นเปรียบเสมือนทูตสันถวไมตรีที่มาร่วมแข่งขันกันโดยไม่เลือกสัญชาติ ผิวพรรณ ศาสนา ลัทธิความเชื่อและการปกครอง ไม่มุ่งเน้นเรื่องการแพ้ชนะ แต่มาเข้าร่วมการแข่งขันกันเพื่อความสามัคคี มิตรภาพ สันติภาพ และความเข้าใจอันดีต่อกันของคนทั่วโลก และที่สำคัญรายการแข่งขันนี้ถือเป็นหนึ่งในรายการที่มีมูลค่าการวางเดิมพันสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก
เมื่อทราบแล้วว่าจุดเริ่มต้นของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกนั้นมีที่มาจากอารยธรรมกรีกโบราณ เคยรุ่งเรืองและหายไป จนกระทั่งมีชายชาวฝรั่งเศสที่มองเห็นคุณค่าของกีฬาโอลิมปิกและนำการแข่งขันนี้กลับมาสู่ชาวโลกอีกครั้ง จนทำให้ปัจจุบันโอลิมปิกได้กลายมาเป็นการแข่งขันกีฬาที่สำคัญและน่าจับตามองของคนทั้งโลกไปแล้ว ซึ่งโชคดีที่ปีนี้ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่มีโอลิมปิกให้ติดตามกัน โดยเป็นการจัดโอลิมปิกครั้งที่ 29 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ดังนั้นทุกคนอย่าลืมไปติดตามกันนะ