ฟิตเนส

ฟิตเนสก็อยากไปแต่ใจมันห่อเหี่ยว วิธีปรับตัวให้เราอยากออกกำลังกายมากขึ้น

เชื่อเลยว่าคนทุกคนต้องเคยมีอารมณ์และความรู้สึกประมาณว่า “ขี้เกียจออกกำลังกาย” ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่ออกกำลังกายเล่นฟิตเนสเป็นประจำอยู่แล้ว หรือ แม้ว่าจะไม่ใช่คนที่รักการออกกำลังกายก็ตามแต่อยากฟิตหุ่นบ้าง ก็คงจะเคยมีภาวะความรู้สึกแบบนี้เกิดขึ้นมา ซึ่งก็ไม่ได้แปลกอะไร เพราะในแต่ละวันกิจกรรมของแต่ละคนก็แตกต่างกันออกไป ทั้งเรื่องงาน เรื่องเวลา เรื่องความเครียด อาหาร การพักผ่อน ทุกคนเจออะไรมาที่ไม่เหมือนกัน บางวันก็เหนื่อยกาย บางวันก็เหนื่อยทั้งกายและใจ ทำให้เราหมดไฟในการที่จะไปฟิตเนสเหมือนกัน แล้วจะทำอย่างไรให้เรามีไฟลุกโชนในเรื่องการออกกำลังกายและการดูแลตัวเองเสมอล่ะ มาดูเทคนิคกันเถอะ

สร้างแรงจูงใจอย่างสม่ำเสมอ

การที่ทุกคนไปฟิตเนสนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีแล้ว แต่จะให้ดีกว่านั้น คุณจะต้องมีเป้าหมายในการออกกำลังกายในฟิตเนสแต่ละครั้งด้วย คุณควรตั้งเป้าทั้งแบบใกล้และแบบไกล แบบใกล้ก็คือ การตั้งเป้าหมายในการออกกำลังกายแบบวันต่อวัน แบบไกลก็คือ เป้าหมายในระยะยาวหรือผลลัพธ์สุดท้ายที่คุณคาดว่าจะได้ การตั้งเป้าหมายจะทำให้คุณเกิดแรงจูงใจในการออกกำลังกาย และคุณต้องคอยประคองแรงจูงใจนั้นให้อยู่กับคุณตลอดเวลาด้วย อย่างเช่นคุณต้องสร้างแรงจูงใจว่า จะมีกล้ามให้ได้ เป็นแรงจูงใจหลัก ระหว่างทางที่ออกกำลังกายไป อาจจะเหนื่อยเกินไปบ้าง เจออุปสรรคบ้างแต่ถ้าคุณค่อย ๆ เห็นความเปลี่ยนแปลงของร่างกาย มีกล้ามเนื้อเห็นชัดขึ้นทีละน้อย ก็จะทำให้คุณไม่หยุดออกกำลังกายไปเสียก่อนนั่นเอง

และอย่าลืมว่าไม่ว่าคุณจะสร้างแรงจูงใจใหญ่ในภาพรวมอย่างไร ก็จะต้องไม่ลืมสร้างแรงจูงใจย่อย ๆ ในระหว่างการออกกำลังกายในแต่ละช่วงด้วย อย่างเช่น วันนี้ยังไม่เป็นผลความเปลี่ยนแปลงชัดเจน แต่ก็ต้องสร้างแรงจูงใจแบบวันต่อวันว่า วันนี้ฉันจะวิ่งให้นานขึ้นไกลขึ้น วันนี้ฉันจะยกให้ถี่ขึ้นจำนวนครั้งมากกว่าเดิม การสร้างความท้าทายใหม่ ๆ จะทำให้เราไม่หมดไฟนั่นเอง

จงมองว่าช่วงเวลาออกกำลังกายคือเวลาส่วนตัวของคุณ

หลายคนเลี่ยงที่จะเข้าฟิตเนส เลี่ยงที่จะไปเล่นกีฬาออกกำลังกายก็ด้วยเหตุผลที่ว่า ไม่มีเวลา บางคนบอกว่าไม่มีเงินไปจ่ายค่าคอร์สในฟิตเนส ทุกคนมักจะมีเหตุผลต่าง ๆ นานาของตนเอง แต่ในท้ายที่สุดแล้ว ขอให้คุณจงโยนเหตุผลผลต่าง ๆ ทิ้งออกไปก่อน แล้วมาเริ่มคิดกันใหม่ว่า การออกกำลังกายเป็นช่วงเวลาพิเศษส่วนตัวของคุณที่สุดในวันหนึ่ง ๆ ที่ผ่านไป ไม่ว่าคุณจะยุ่งกับงานแค่ไหน คุณอยากให้เวลาทั้งหมดไปอยู่กับงานแบบนั้นหรือ คุณต้องการเวลาส่วนตัวของคุณบ้างใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นก็จงลุกมาออกกำลังกาย แม้เพียง 10 – 20 นาทีก็ยังดี และไม่จำเป็นต้องไปฟิตเนสก็ได้ การเดินไปมาในบ้าน ขึ้นลงบันได ก็เป็นการออกกำลังกายได้เหมือนกัน ดังนั้น จงใช้เวลาพิเศษตรงนั้นให้สม่ำเสมอให้ได้

เหล่านี้คือเทคนิคง่าย ๆ ที่จะกระชากคุณให้ลุกจากเตียง ลุกออกจากเก้าอี้ทำงานแล้วไปออกกำลังกายหรือไปฟิตเนสอีกครั้ง ลองนำไปปรับใช้กันดู แล้วคุณจะออกกำลังกายได้สม่ำเสมอและต่อเนื่องตามที่ต้องการ